เบอร์ดี้ ที่ 1 ในใจ ทำอย่างไรถึงกลายเป็นที่ 1 ในตลาดกาแฟพร้อมดื่ม

FeatureIMG B Scale Story เบอร์ดี้

แบรนด์ที่คนไทยหลายคนคุ้นเคย กาแฟกระป๋องพร้อมดื่มรายแรกในประเทศไทย “เบอร์ดี้” ถือเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมอันดับหนึ่งและครองตำแหน่งผู้นำตลาดกาแฟพร้อมดื่มมาอย่างยาวนาน ถึงแม้ยุคสมัยจะเปลี่ยนไป แต่ทำไมพวกเขายังคงครองใจคนไทยได้ไม่เปลี่ยนแปลง

ผู้นำตลาดกาแฟพร้อมดื่ม ที่ครองตำแหน่งยาวนานกว่า 30 ปี พวกเขาทำได้อย่างไร?

ต้องขอย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้นของเบอร์ดี้ที่เรียกได้ว่าเป็นแบรนด์ไทยที่ประสบความสำเร็จอย่างมากหนึ่งแบรนด์ แต่แท้จริงแล้วพวกเขาได้ถอดสูตรความสำเร็จมาจากการทำตลาดกาแฟกระป๋องในประเทศญี่ปุ่นและไต้หวัน ที่บริษัทแม่อย่างอายิโนะโมะโต๊ะเคยทำการตลาดจนประสบความสำเร็จมาเป็นที่เรียบร้อย

จากความสำเร็จจากทั้ง 2 ประเทศ เบอร์ดี้จึงได้ถือกำเนิดขึ้นเพื่อทำตลาดกาแฟกระป๋องพร้อมดื่มในประเทศไทย โดยในปี พ.ศ. 2536 ได้เปิดตัวกาแฟกระป๋องพร้อมดื่มครั้งแรกให้คนไทยได้รู้จัก ซึ่งถือเป็นเรื่องแปลกใหม่สำหรับคนไทย เพราะในช่วงนั้นตลาดกาแฟในประเทศไทยจะมีเพียงกาแฟผงให้ชงดื่มเท่านั้น

ในช่วงแรกพวกเขาจึงต้องเน้นกลยุทธ์การสื่อสารการตลาดเพื่อสร้างการรับรู้ให้กับสินค้าใหม่อย่างกาแฟกระป๋องพร้อมดื่ม โดยการส่งเบอร์ดี้ ไอซ์คอฟฟี่ เป็นสินค้าแรกในการทำตลาด และมาพร้อมกับการสื่อสารในแนวคิดกาแฟเย็นรสเข้มข้น ที่หยิบดื่มได้ทันที ไม่ต้องชง แต่ได้รสชาติเหมือนดื่มกาแฟที่ชงสดใหม่

กลยุทธ์การสื่อสารในครั้งนี้ทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จอย่างมากในการทำการตลาดในประเทศไทย หลังจากสินค้าแรกที่เปิดตัวไปประสบความสำเร็จ พวกเขาได้เดินหน้าเต็มกำลังในการบุกเบิกตลาดใหม่ด้วยการส่งสินค้าใหม่เพิ่มเข้ามาในตลาดอีก 3 รสชาติ ได้แก่ โรบัสต้า, มิลค์กี้ และ ร็อคโกโก้ เพื่อยึดครองตลาดกาแฟกระป๋องพร้อมดื่มทันที

ซึ่งสินค้าที่เปรียบเสมือนฮีโร่ของแบรนด์ก็ได้ถือกำเนิดขึ้น จากการพัฒนารสชาติใหม่อย่างต่อเนื่องเพื่อปรับให้เข้ากับคนไทยโดยเฉพาะ ทำให้ เบอร์ดี้ โรบัสต้า หรือภาพจำหลายคนคือ เบอร์ดี้แถบแดง ได้กลายเป็นรสชาติยอดนิยมหลังจากเปิดตัวในปี พ.ศ. 2537 และยังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน

ความสำเร็จของพวกเขาไม่ได้มาจากการพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์ความต้องการของคนไทยเท่านั้น เพราะพวกเขายังมีกลยุทธ์ทางการตลาดที่โดดเด่นจนสามารถครองใจคนไทยได้สำเร็จ ด้วยสโลแกน “เบอร์ดี้ หนึ่งในใจคุณ” ที่กลายเป็นภาพจำสำหรับคนไทยและตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดกาแฟกระป๋องพร้อมดื่ม

รวมถึงมีการจัดกิจกรรมทางการตลาด (Event Marketing) อย่างต่อเนื่อง ผ่านการออกแคมเปญต่างๆในแต่ละปี เช่น การจัดกิจกรรม “ง่วงไม่ขับ กับเบอร์ดี้” เพื่อกระตุ้นการขับขี่ปลอดภัยตามแหล่งสถานีบริการน้ำมันต่างๆ ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์และปีใหม่

อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่โดดเด่นของเบอร์ดี้ก็คือ Presenter Marketing ที่ใช้ในการสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายในวงกว้าง (Mass Market) ผ่านการใช้ผู้มีชื่อเสียงของประเทศไทยไม่ว่าจะเป็นดาราจนถึงศิลปิน ในการเป็นกระบอกเสียงให้กับแบรนด์ เพื่อเข้าถึงกลุ่ม Blue Collar หรือกลุ่มของผู้ใช้แรงงาน ผู้ทำงานกลางคืน ผู้ขับรถทางไกล หรือผู้ที่ทำงานที่ต้องการยืนระยะเวลาการทำงานยาวๆ

และในฐานะผู้นำตลาดพวกเขายังมีการขยายกลุ่มลูกค้าของตัวเองโดยการออกสินค้าใหม่ขึ้นมาเพื่อจับกลุ่ม White Collar หรือกลุ่มที่ทำงานกลางวัน เช่น คนทำงานออฟฟิศ หรือนักศึกษา เพื่อขยายตลาดของตัวเอง และยึดครองตำแหน่งผู้นำที่เหนียวแน่น ซึ่งยากที่จะมีคคู่แข่งรายใหม่เข้ามาท้าชิงตำแหน่งนี้ไปได้

จะเห็นได้ว่าเบอร์ดี้เป็นแบรนด์ที่ไม่หยุดเฉย พวกเขามุ่งเน้นที่จะพัฒนาสินค้าและการตลาดอยู่ตลอดเวลา เพื่อมาตอบสนองตามความต้องการของลูกค้าหรือกระแสที่เปลี่ยนไป เช่น กระแสการรักสุขภาพ เบอร์ดี้ก็มีการปรับตัวให้เข้ากับกรพแสในปัจจุบัน โดยการออกสินค้าสูตรใหม่เป็นสูตรหวานน้อย น้ำตาลน้อยลง 50%

พวกเขาสามารถเข้าไปตอบโจทย์ในเรื่องของรสชาติและความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปอยู่เสมอ และมีการทำการตลาดอย่างต่อเนื่องเพื่อครองใจฐานลูกค้า พร้อมทั้งขยายกลุ่มลูกค้าใหม่ๆเพิ่มขึ้น ซึ่งนั่นทำให้พวกเขาสามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาดและเป็นผู้นำมาได้อย่างยาวนานถึง 30 ปี ตั้งแต่เริ่มจัดจำหน่ายกาแฟกระป๋องพร้อมดื่มในประเทศไทย

Scale’s Takeaways

  1. ความสามารถในการปรับตัว

ในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงคงปฎิเสธไม่ได้ว่าหัวใจหลักในยุคปัจจุบันก็คือความสามารถในการปรับตัวของธุรกิจ ความท้าทายในยุคนี้คือพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

ถึงแม้เบอร์ดี้จะมีตัวอย่างความสำเร็จที่พวกเขาเคยทำได้จากญี่ปุ่นและไต้หวัน แต่พวกเขาก็อาจไม่ประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้ ถ้าไม่ปรับทั้งเรื่องของรสชาติและการสื่อสารทางการตลาดให้เข้ากับคนไทย รวมถึงการปรับตัวอย่างเช่นการออกสินค้าใหม่สูตรหวานน้อย เพื่อปรับสินค้าให้เข้ากับกระแสในปัจจุบัน  

  1. Presenter Marketing

กลุ่มผู้มีอิทธิพลหรือผู้มีชื่อเสียงที่มาทำหน้าที่เป็นตัวแทนของแบรนด์ เพื่อเป็นตัวกลางในการสื่อสารระหว่างแบรนด์กับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ซึ่งจะช่วยช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ และทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นในการสื่อสารทางการตลาดมากกว่าแบรนด์พูดโดยตรง เพราะพวกเขาเป็นคนที่กลุ่มเป้าหมายชื่นชอบและไว้วางใจ

ไม่ว่าจะกี่ยุคสมัย เบอร์ดี้ก็ยังครองใจคนไทยและใช้กลยุทธ์ Presenter Marketing ในการโปรโมทแคมเปญหรือการสื่อสารทางการตลาดต่างๆ จนกลายเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่สำคัญของเบอร์ดี้ในการสื่อสารกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เพราะการใช้คนในการสื่อสารจะสามารถถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึก รวมไปถึงภาพลักษณ์ของบุคคลนั้นได้ดีกว่าแบรนด์

  1. ศึกษาความต้องการของลูกค้า

การทำความเข้าใจในความต้องการของลูกค้ามีประโยชน์ต่อธุรกิจอย่างมาก นอกจากจะช่วยให้ธุรกิจสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้แล้ว ยังช่วยให้ธุรกิจสามารถตัดสินใจในการพัฒนาสินค้าหรือบริการใหม่ๆเพิ่มขึ้นมา และช่วยให้รู้ว่าต้องพัฒนาธุรกิจไปในทิศทางไหนถึงจะถูกใจกลุ่มลูกค้าของตนเองได้

เบอร์ดี้เป็นแบรนด์ที่ศึกษาความต้องการของลูกค้าอยู่ตลอดเวลา เพื่อหาโอกาสในการตอบสนองความต้องการนั้น และนำมาพัฒนาสินค้าอย่างต่อเนื่อง และตำแหน่งผู้นำตลาดที่ยาวนานถึง 30 ปี เป็นข้อพิสูจน์ว่าถึงแม้จะเปลี่ยนไปกี่ยุคสมัย พวกเขาก็ยังปรับตัวได้ทันตามกระแสและความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไป 

สรุป

หลายคนคงจดจำสโลแกน “เบอร์ดี้ หนึ่งในใจคุณ” ได้ แม้จะผ่านมาเป็นระยะเวลาค่อนข้างนาน ซึ่งนอกจากพวกเขาจะเป็นที่หนึ่งในใจก็ยังเป็นที่หนึ่งของตลาดกาแฟกระป๋องพร้อมดื่มอีกด้วย

ใครเคยดื่ม เบอร์ดี้ และชื่นชอบรสชาติใดกันบ้าง หรือชื่นชอบการตลาดแคมเปญไหนของ เบอร์ดี้ เป็นพิเศษ อย่าลืมมาคอมเมนต์บอกกันหน่อยที่ใต้โพสต์นี้น้า

อ้างอิง

About The Author

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

ติดตาม scale เพื่อเติมความรู้ดีๆ ใส่สมองก่อนใคร!

เราสัญญาว่าจะเติมแต่ความรู้ดีๆ ใส่สมองของคุณ :)

ติดตามต่อทาง Social Media

นอกจากอีเมลแล้ว คุณยังสามารถติดตามคอนเทนต์ดีๆ ผ่าน Social Media ได้เช่นกัน

เราสัญญาว่าจะเติมแต่ความรู้ดีๆ ใส่สมองของคุณ :)

ติดตามเราทาง Facebook

เราสัญญาว่าจะเติมแต่ความรู้ดีๆ ใส่สมองของคุณ :)

กดปุ่มนี้

Scroll to Top