รู้จักกับ Pepple Watch: แบรนด์ Smart Watch ที่มาก่อนกาล และพ่ายแพ้ให้กับ Apple

FeatureIMG Pebble Watch

รู้หรือไม่? ว่า Apple Watch ไม่ใช่เจ้าแรกที่ปล่อย Smart Watch สู่ตลาด

กาลครั้งหนึ่ง นานมาพอแล้วพอสมควร ตลาด Smart Watch นั้นถือกำเนิดมาจาก Project บน Kickstarter ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มระดมทุนชั้นนำของโลก (ใครมีของเจ๋งๆ อยากได้เงิน เอาไประดมทุกได้ที่นี่)

จริงๆ แล้ว มีบริษัทหลายบริษัทก่อนหน้านี้พยายามทำนาฬิกาในรูปแบบ Digital แต่แบรนด์แรกๆ ที่ทำให้ Smart Watch เชื่อมต่อกับมือถือได้ และทำให้ Smart Watch กลายเป็นเรื่องที่ Mass ขึ้น ก็คือบริษัท Hardware Startup ที่ชื่อว่า “Pebble”

รู้จักกับ Pebble Watch: แบรนด์ Smart Watch ชื่อดัง (เมื่อสิบกว่าปีก่อน)

ในช่วงราวๆ ปี 2012 ไอเดียนาฬิกาที่เชื่อมกับมือถือได้ยังเป็นไอเดียที่ใหม่ แถมอีไซน์ที่ Pebble ออกแบบมาก็ดูมีความแตกต่าง คนก็เลยรู้สึกว้าวมากๆ และ Pebble เองก็สามารถระดมทุนบน Kickstarter ไปได้ทั้งหมด $10,266,845 (ราวๆ 300 กว่าล้านบาท) ทั้งๆ ที่พวกเขาตั้งเป้าระดมทุนไว้แค่ $100,000 เท่านั้นเอง

หลังจากแคมเปญประสบความสำเร็จและส่งมอบ Smart Watch รุ่นแรกไปแล้ว พวกเขาก็ได้ออกระดมทุนอีกครั้งในปี 2015 ด้วย Pebble Time และในปี 2016 ด้วย Pebble 2

ซึ่งตัว Pebble 2 นั้นมีปัญหาเรื่องการขนส่งล่าช้าไปนานกว่าปีครึ่ง และมีหลายๆ คนที่ไม่ได้รับตัวสินค้า

ประกอบกับที่ในช่วงนั้น Apple เองได้เปิดตัว Apple Watch ที่สามารถเชื่อมต่อกับ Device ต่างๆ ของ Apple ได้โดยตรง (รวมถึงจากค่าย Samsung เองก็มีการเปิดตัว Samsung Galaxy Gear มานช่วงก่อนหน้านั้นนิดหน่อย)

Pebble เองก็เลยอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก เพราะทั้งการผลิตก็มีปัญหา และโดนคู่แข่งที่มี Ecosystem ที่แข็งแรงกว่ามากๆ มาตี

สุดท้าย วันที่ 7 ธันวาคม 2016 ทาง Pebble ประกาศว่าบริษัทถูกซื้อไปโดย Fitbit (บริษัทขาย Wearable Device สำหรับคนที่ชื่นชอบออกกำลังกาย) ไปในมูลค่าราวๆ $40 ล้านเหรียญ

ก็เลยเป็นอันปิดฉากบริษัทที่เป็นผู้จุดกระแส Smart Watch ของโลกลงไป

Scale’s Takeaways

  1. Ecosystem คือสิ่งที่สร้างความแตกต่าง

Ecosystem คือสิ่งที่สร้างข้อได้เปรียบในการแข่งขัน ดังเช่น Apple ที่เป็น Close Ecosystem ทำให้คนที่ใช้สินค้าบางตัวของ Apple อยากจะใช้สินค้าตัวอื่นๆ ต่อด้วย เพราะมันเชื่อมต่อกันอย่างไร้รอยต่อ

Pebble ที่ไม่ได้มี Ecosystem ใดๆ มีเพียงแต่ Smart Watch แล้วต้องคอยไปเชื่อมกับคนอื่น ก็เลยต้องเป็นผู้พ่ายแพ้ในศึกนี้ไป

  1. Timing คือสิ่งสำคัญ

เร็วกว่า ใหม่กว่า (หรือบางครั้งดีกว่า) ก็อาจจะไม่ใช่ผู้ชนะเสมอไป การปล่อยสินค้าสู่ตลาดเร็วไป พฤติกรรมของคนอาจจะยังไม่พร้อม หรือการปล่อยสินค้าสู่ตลาดช้าไป ก็ทำให้สู้กับคู่แข่งยาก

อย่าง Pebble เอง ก็ต้องรับบทของผู้ที่มาก่อนกาล เป็นผู้เปิดตลาด แต่สุดท้ายโดนบริษัทอื่นๆ รับผลประโยชน์ไป

  1. ต้องรู้จักประเมินความเสี่ยง

ต้องรู้จังหวะ รุก รับ ถอย เลิก

มีรายงานว่า Pebble เองเคยถูกเสนอซื้อด้วยมูลค่า $740 ล้านเหรียญโดย Citizen ในปี 2015 แต่พวกเขาไม่ยอมขาย เพราะผู้ก่อตั้งมั่นใจว่าธุรกิจของพวกเขาจะไปได้ดี

ในช่วงขาลง พวกเขาถูกเสนอซื้ออีกครั้ง โดย Intel ในมูลค่า $70 ล้านเหรียญ แต่ก็ยังไม่ยอมขาย

สุดท้าย พวกเขาก็เลยต้องขายบริษัทให้ Fitbit ในมูลค่า $40 ล้านเหรียญ โดยที่เจ้าของน่าจะไม่ได้อะไรกลับไปมากนักด้วย

สรุป

และนี่คือเรื่องราวของ Pebble บริษัท Smart Watch ที่มาก่อนกาล

คุณเป็นหนึ่งในคนที่เคยซื้อและใช้ Pebble รึเปล่า? หรือคุณมี Takeaways อะไรเพิ่มเติมจากบทเรียนนี้ไหม? มาคุยกันต่อได้ในคอมเมนต์เลย

* หมายเหตุ Pebble ที่ถูกเขียนถึงในบทความนี้ ไม่มีความเกี่ยวข้องกับแบรนด์นาฬิกาใช้ชื่อ Pebble ในปัจจุบัน

อ้างอิง

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

ติดตาม scale เพื่อเติมความรู้ดีๆ ใส่สมองก่อนใคร!

เราสัญญาว่าจะเติมแต่ความรู้ดีๆ ใส่สมองของคุณ :)

ติดตามต่อทาง Social Media

นอกจากอีเมลแล้ว คุณยังสามารถติดตามคอนเทนต์ดีๆ ผ่าน Social Media ได้เช่นกัน

เราสัญญาว่าจะเติมแต่ความรู้ดีๆ ใส่สมองของคุณ :)

ติดตามเราทาง Facebook

เราสัญญาว่าจะเติมแต่ความรู้ดีๆ ใส่สมองของคุณ :)

กดปุ่มนี้

Scroll to Top