ปั้นธุรกิจย่างไรให้ยั่งยืนทั้ง Ecosystem

CTC recap 09

สรุปจากงาน “Creative Talk Conference 2024” ใน Session Regeneration: Co-creating a Sustainable and Valuable Supply Chain การสร้างคุณค่าให้กับซัพพลายเชนที่ได้ประโยชน์ทุกภาคส่วน นำไปสู่กระบวนการที่ยั่งยืน โดยคุณนพพร ทัตสิริวรวัฒน์ (The Cloud) คุณเศรษฐการ วีรกุลเทวัญ (Factory Coffee) คุณณัฏฐ์รดา คุณะวิวัฒนานนท์ (Bluekoff) คุณพงษ์ศิลา คำมาก (Sansaicisco Farmer Co-op / Slowfood Chiangmai) คุณช้างน้อย กุญชร ณ อยุธยา (Cloud & Ground)

ถอดบทเรียนการพัฒนาอย่างยั่งยืนจากวงการกาแฟไทย ปั้นธุรกิจย่างไรให้ยั่งยืนทั้ง Ecosystem ตามมาอ่านกันเลย!

ผู้บริโภคเป็นผู้กำหนดทิศทาง

วงการหรือธุรกิจใดจะสามารถอยู่ได้อย่างยั่งยืน ก็ต่อเมื่อผู้บริโภคมีความสนใจหาความรู้มากขึ้น หากพวกเขารู้ว่า สินค้าที่มีคุณภาพดีเป็นอย่างไร เขาจะเริ่มออกตามหา และเต็มใจที่จะจ่ายเงิน

บทเรียนจากวงการกาแฟไทย

กาแฟและเครื่องดื่มหลายชนิด มีข้อได้เปรียบ คือ ผู้บริโภคที่หลงใหลและได้ลิ้มลองผลิตภัณฑ์คุณภาพดีที่มีรสชาติเยี่ยมแล้ว ผู้บริโภคกลุ่มนั้นมักจะเสาะหาแต่ของที่ดียิ่งขึ้นไปอยู่เสมอ พวกเขาเหล่านี้พร้อมจ่ายเงินให้กับสินค้าที่มีคุณภาพและรสชาติที่เขาตามหา

ยิ่งไปกว่านั้น ในปัจจุบัน ผู้บริโภคมีความรู้เรื่องกาแฟมากขึ้น พวกเขาทราบเป็นอย่างดีว่า กาแฟที่อร่อยนี่ไม่ได้มาจากเพียงแค่ฝีมือของคนชง แต่กาแฟนั้นอร่อยเพราะตลอดเส้นทางการผลิตนั้นดี

ผู้ประกอบการต้องสร้างมูลค่าเพิ่มไปด้วยกัน

การแข่งขันทำให้วงการเดินไปข้างหน้า เป็นการสร้างตัวเลือกให้กับผู้บริโภค แต่ในบางครั้ง มีที่ตัวเลือกมากขึ้นอย่างเดียวนั้นไม่พอ เพราะการเริ่มต้นยากเสมอ คู่แข่งทางการค้าควรหันมาจับมือกัน เพื่อผลักดันวงการไปข้างหน้า ร่วมมือกันสร้าง ecosystem ที่เต็มไปด้วยสินค้าคุณภาพตั้งแต่ผู้ผลิต จนถึงมือผู้บริโภค เพราะหากคุณมีสินค้าที่หายาก มีคุณค่า และไม่สามารถลอกเลียนแบบได้ คุณจะสามามารถกำหนดมูลค่าของสินค้านั้นด้วยตัวเองได้

 บทเรียนจากวงการกาแฟไทย

ประเทศไทยมีร้านกาแฟและโรงคั่วอยู่จำนวนมาก เมื่อผู้บริโภคมีความรู้มากขึ้น พวกเขาย่อมมองหาผลิตภัณฑ์ที่พิเศษมากขึ้น การแบ่งสายพันธุ์กาแฟจึงมีความละเอียดซับซ้อนยิ่งขึ้น ผู้ประกอบการกาแฟไทยจึงรวมตัวกันเพื่อพัฒนาวงการ “กาแฟพิเศษ” หรือ “Specialty Coffee” ของประเทศไทยให้ไปไกลยิ่งขึ้น ผ่านการประกวดเมล็ดกาแฟ โดยกรรมการที่คัดมาแต่หัวกะทิของวงการเท่านั้น เป็นการแสดงให้เห็นถึงของศักยภาพที่เต็มเปี่ยมของบุคลาการในวงการกาแฟไทย

ผู้ผลิตต้องเป็นต้นน้ำมีคุณภาพ

การสร้างมูลค่าเพิ่มอย่างยั่งยืน ต้องได้รับความร่วมมือจากผู้ผลิตที่เห็นความสำคัญ การมอบความมั่นใจและกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงจากวิถีเดิมเพื่อการพัฒนาไปสู่จุดที่ดีกว่าให้กับผู้ผลิต เป็นหนึ่งในโจทย์ที่ผู้ประกอบการต้องสื่อสารและแสดงให้เห็นถึงความต้องการของผู้บริโภค

บทเรียนจากวงการกาแฟไทย

กาแฟที่เป็นพืชที่ยั่งยืนโดยธรรมชาติ การผลิตเมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพออกมาได้นั้น ต้นกาแฟต้องรายล้อมไปด้วยป่า ภูเขา แม่น้ำ และธรรมชาติที่สมบูรณ์​ และการที่ผลิตภัณฑ์มีมูลค่าสูงขึ้นนั้น เปลี่ยนจากการซื้อขายในจำนวนมากเป็นการประมูลที่คัดมาแต่สารกาแฟชั้นยอด ทำให้เกษตรกรผู้ผลิตมีรายได้และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น คุ้มค่ากับการที่พวกเขาตั้งใจและใส่ใจดูแลในทุกขั้นตอน

สรุป

การพัฒนาอย่างยั่งยืนไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถเกิดขึ้นได้โดยความตั้งใจของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่เป็นสิ่งที่ต้องช่วยกันพัฒนาตลอดทั้ง Ecosystem ตั้งแต่ ผู้บริโภคที่มีความรู้ ผู้ประกอบการที่มีอุดมการณ์ และผู้ผลิตที่มีความใส่ใจ ทาง The Cloud ยังหวังว่า แนวคิดนี้จะสามารถนำไปประยุกต์ใช้ เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนของวงการอื่น เช่น วงการการศึกษาและวงการข้าวไทย

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

ติดตาม scale เพื่อเติมความรู้ดีๆ ใส่สมองก่อนใคร!

เราสัญญาว่าจะเติมแต่ความรู้ดีๆ ใส่สมองของคุณ :)

ติดตามต่อทาง Social Media

นอกจากอีเมลแล้ว คุณยังสามารถติดตามคอนเทนต์ดีๆ ผ่าน Social Media ได้เช่นกัน

เราสัญญาว่าจะเติมแต่ความรู้ดีๆ ใส่สมองของคุณ :)

ติดตามเราทาง Facebook

เราสัญญาว่าจะเติมแต่ความรู้ดีๆ ใส่สมองของคุณ :)

กดปุ่มนี้

Scroll to Top