อุตสาหกรรมหนึ่งที่ถูกรณรงค์ถึงกสนดูแลสิ่งแวดล้อมมากไม่แพ้อุตสาหกรรมการผลิตและยานยนต์ เห็นทีจะเป็นอุตสาหกรรมแฟชั่นนี้แหละ เพราะแฟชั่นในปัจจุบันเปลี่ยนไปไวเหลือเกิน บางแบรนด์ถึงขั้นวางขายและเปลี่ยนคอลเลกชันทุกสัปดาห์ ส่วนลูกค้าบางคนชุดไหนที่ถ่ายลง IG แล้วก็แทบไม่ได้หยิบออกจากตู้อีกเลย
“ไม่มีอะไรจะใส่” ทั้งๆ ที่มีเสื้อผ้าล้นตู้ เคยเป็นมุกตลกร้ายของสายแฟชั่นอยู่พักหนึ่ง ด้วยการบริโภคอย่างฉาบฉวยนี้ ทำให้แต่ละแบรนด์ต้องออกมารับ (ผิดชอบ) บทนางรักษ์โลกผ่านคอลเลกชัน Eco-Friendly ต่างๆ
เส้นใยจากพลาสติกบ้างเอย วัสดุออร์แกนิกบ้างเอย ถือว่าเป็นไอเดียดีๆ ที่อย่างน้อยก็ช่วยลดวัสดุทำร้ายโลกที่จะถูกผลิตออกมา ก็ใช้ของเก่ามา Upcycling ซะเลย
Scale ไปเจออีกไอเดียนึงที่น่าสนใจไม่เบา จากธุรกิจ Piñatex ที่เขาไม่ใช่แค่ทำ Upcycling เท่านั้น แต่เป็นการทำ Cycling Economy (CE) สร้างเศรษฐกิจที่หมุนเวียนซึ่งกันและกันด้วย
Piñatex เป็นแบรนด์ที่แปรสภาพใบสับปะรดที่เหลือจากการขายมาทำเป็นหนัง Vegan Leather แล้วก็ Supply ให้กับแบรนด์แฟชั่นหลายๆ แบรนด์เลย ทั้ง BOSS HUGO, NIKE, H&M ฯลฯ ที่เอาไปเป็นวัสดุของสินค้าของแบรนด์ เช่น ชุดเดรส กระโปรง กระเป๋า เข็มขัด ฯลฯ ทุกอย่างที่ทำจากหนัง สามารถใช้หนัง Vegan Leather ของ Piñatex ไปใช้แทนหนังฟอกสีได้เลย เฟอร์นิเจอร์ก็ยังมี! เข้าไปดูตัวอย่างสินค้าได้ใน Instagram ของ Piñatex ได้เลย
ถามว่า Piñatex จะเอาใบสับปะรดมาจากไหนเพื่อรองรับความต้องการด้านแฟชั่นมากมายขนาดนั้น ทางแบรนด์เผยความจริงให้ฟังว่า ในประเทศฟิลิปปินส์มีผลผลิตที่เป็นสับปะรด 2,500,000 ตันต่อปี และเมื่อเอาสับปะรดเหล่านี้ไปขาย เป็นเรื่องปกติที่ร้านค้าจะรับซื้อแค่ผล และถ้าขายสับปะรด 1 ตัน จะมีใบสับปะรดถูกปล่อยทิ้งให้ย่อยสลายหรือเผาทิ้งถึง 3 ตัน! ทาง Ananas Anam จึงจับมือเป็นพาร์ทเนอร์กับ Dole ผู้ปลูกและจัดจำหน่ายสับปะรดรายใหญ่ที่สุดในฟิลิปปินส์สร้างแบรนด์และสินค้าของ Piñatex นี้ขึ้นมา
[Scale’s Takeaways]
1. แม้แต่หนังแท้ ก็ส่งมลพิษแย่ๆ ต่อสิ่งแวดล้อม
รู้ไหมว่า นอกจากพลาสติกแล้ว การผลิต ‘หนัง’ ส่งผลอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมได้ด้วยเหมือนกัน เพราะมีการปลดปล่อยมลพิษที่สามารถสลายทางชีวภาพได้ต่ำออกมากับน้ำทิ้ง รวมถึงมลพิษทางอากาศจากกระบวนการเปลี่ยนรูปด้วย
ตลอดกระบวนการของการฟอกหนังจะมีสารเคมีมามีส่วนอย่างเข้มข้น ทั้งไฮโดรเจนซัลไฟด์ในระหว่างการกำจัดขนและแอมโมเนียในระหว่างการลอกออก ไหนจะไอระเหยของตัวทำละลายด้วย
2. หนังจากเส้นใยไฟเบอร์สับปะรด Save สิ่งแวดล้อมกว่าอย่างไร?
กลับกัน Piñatex แทบจะไม่ต้องใช้น้ำในกระบวนการด้วยซ้ำ เพราะใช้เป็นเส้นใยไฟเบอร์จากใบสับปะรดได้เลย ส่วนเม็ดสีที่เอามาใช้ย้อม ก็เป็นเม็ดสีที่ได้รับการรับรอง GOTS และมีการเคลือบเรซิ่นสูตรน้ำบนผิวเพื่อเพิ่มความทนทานและกันน้ำ แถมหนังจากใบสับปะรดนี้ก็ทำจากการบีบอัดล้วนๆ ทางแบรนด์เลือกจะไม่ทอเพื่อให้ได้เสื้อสัมผัสเป็นธรรมชาติแบบเดียวกับหนัง
3. เทรนด์วัสดุทดแทนเพื่อความยั่งยืนในวงการแฟชั่น
นอกจากหนังจากใบสับปะรดแล้ว ในวงการแฟชั่นยังมีการสร้างสรรค์วัตถุดิบทดแทนมาใช้ในวงการเพื่อความยั่งยืนอีกหลากหลายไอเดีย ทั้งพลาสติกชีวภาพจากสาหร่ายทะเล (สาหร่ายสามารถกักเก็บคาร์บอนจากชั้นบรรยากาศได้ตลอดชีวิตของมัน), หนังจากราไมซีเลียม, เสื้อผ้าจากเส้นใยพลาสติกรีไซเคิล เป็นต้น
สรุป
แม้ว่าผู้ผลิตจะสร้างสรรค์สินค้าลดมลพิษออกมาเท่าไหร่ แต่สิ่งสำคัญที่จะเปลี่ยนโลกได้ก็คือพฤติกรรมของผู้บริโภคที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ลดการซื้อใช้ทิ้งขว้าง บริโภคสินค้าอย่างรู้คุณค่า ก็ถือเป็นส่วนช่วยลดการสร้างคาร์บอนได้แล้ว ~
อ้างอิง
https://clios.com/awards/winner/creative-commerce/dole-sunshine-company-x-ananas-anam/pi%C3%B1atex-136652
https://tooche.me/pages/what-is-pinatex
https://www.yankodesign.com/2022/06/29/pineapple-leaves-become-a-convincing-leather-alternative-using-a-sustainable-process/?fbclid=IwAR04oow4EDE5R6ZC9eWY1bGwCCvK1Vh6P8uJdQlbcq6P2_pplKL9oVJNLos
https://www.instagram.com/pinatex/
https://www.ananas-anam.com/
https://hmong.in.th/wiki/Whitening_(leather_processing)