McDonald's คือหนึ่งในแบรนด์ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดที่คนทั่วโลกรู้จักและคุ้นเคยจนถึงทุกวันนี้ แต่ความสำเร็จของ McDonald's ไม่ได้สวยหรูอย่างที่หลายคนคิด เพราะเขาก็เคยเจอกับความล้มเหลวครั้งยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นในยุค 90's กับเมนูที่มีชื่อว่า Arch Deluxe เบอร์เกอร์พรีเมียมที่ลูกค้าไม่ต้องการ
ก่อนจะสำเร็จก็ต้องเคยล้มเหลวมาก่อน มาเรียนรู้กับบทเรียนราคาแพงของแบรนด์ดังระดับโลก
พวกเขาทุ่มเทกระบวนการผลิตเมนูใหม่นี้ โดยการจ้าง Andrew Selvaggio เชฟอาหารรสเลิศในตำนานของชิคาโก มาเป็นผู้พัฒนาสูตรเบอร์เกอร์นี้ขึ้นมา เขาคิดค้นส่วนผสมใหม่ทั้งหมด ซึ่งมันดูโดดเด่นและมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ทั้งการใช้ซอสมัสตาร์ดมาโย เบคอนพริกไทย และเนื้อวัวที่ถูกม้วนด้วยมันฝรั่ง
จนกระทั่งในปี 1995 Arch Deluxe เปิดตัวครั้งแรกในแคนาดา และต่อมาได้ตัดสินใจครั้งใหญ่ในการเพิ่มเมนูใหม่นี้ในประเทศสหรัฐอเมริกา พร้อมทุ่มงบการตลาดถึง 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กับแคมเปญ “burger with the grownup taste” เพื่อสื่อสารและตอกย้ำว่า Arch Deluxe เป็นเบอร์เกอร์สุดพรีเมียมสำหรับผู้ใหญ่
แต่ทว่าแคมเปญนี้กลับไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่คิด เพราะพวกเขากำลังมองหากลุ่มลูกค้าใหม่เป็นผู้ใหญ่ Generation X ที่มีรายได้สูงหรือคนรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จ ด้วย Arch Deluxe เบอร์เกอร์พรีเมียมที่ถูกตั้งราคาแสนแพง $2.09 – $2.49 แต่พวกเขากลับละเลยกลุ่มเป้าหมายหลักของแบรนด์
ความล้มเหลวในครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนครั้งใหญ่ของ McDonald's ที่เป็นการพิสูจน์ว่ากลุ่มลูกค้าของแบรนด์ไม่ได้ต้องการเบอร์เกอร์ชั้นยอดที่มีความพรีเมียมและราคาสูง แต่พวกเขาแค่ต้องการเบอร์เกอร์ธรรมดาที่เข้าถึงง่าย ราคาไม่สูง และรวดเร็ว
เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งเหตุการณ์สำคัญที่ทำให้ McDonald's เข้าใจความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า และมุ่งเน้นในการพัฒนาการบริการและสินค้าใหม่ ๆ ให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ จนทำให้พวกเขากลายเป็นหนึ่งในผู้นำอุตสาหกรรมอาหารฟาสต์ฟู้ดได้จนถึงทุกวันนี้
Scale’s Takeaways
1. อย่าละเลยกลุ่มลูกค้าของตัวเอง
การทำความเข้าใจลูกค้าของธุรกิจถือเป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาสินค้าใหม่ McDonald's พยายามมองหากลุ่มเป้าหมายใหม่ให้กับธุรกิจ จนลืมไปว่าลูกค้าปัจจุบันที่เป็นแฟนพันธ์แท้ของแบรนด์ต้องการอะไร
Arch Deluxe ที่ตั้งใจพัฒนาและทุ่มเทงบประมาณมหาศาลไปนั้น กลับเป็นสิ่งที่ลูกค้าไม่ต้องการ
2. กล้าจบก่อนที่จะเจ็บ
อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญสำหรับการทำธุรกิจก็คือ การหยุดให้เป็น แน่นอนว่าไม่ใช่การยอมแพ้ แต่เป็นการกำหนดจุดที่ควรจะหยุด เมื่อสิ่งที่ทำไม่ตรงกับที่คาดหวังไว้หรือไม่เป็นไปตามแผน ยอมทิ้งเงินลงทุนหรือแรงที่ลงทุนไป อาจจะดีกว่าต้องลงเงินและลงแรงเพิ่มเข้าไป โดยที่ไม่เห็นจุดคุ้มทุน
McDonald's อาจเสียหายน้อยกว่านี้ ถ้าหากพวกเขาตัดสินใจหรือวางแผนสำหรับจุดที่ควรจะหยุด
3. ต้องเรียนรู้จากข้อผิดพลาด
ในการทำธุรกิจเป็นเรื่องปกติที่ต้องเจอกับปัญหา อุปสรรค หรือข้อผิดพลาดที่คาดไม่ถึง แต่สิ่งสำคัญคือเมื่อผิดพลาดแล้ว ต้องเรียนรู้จากสิ่งที่เกิดขึ้น และมองความผิดพลาดให้เป็นโอกาสในการเดินหน้าต่อไป
ถึงแม้ Arch Deluxe จะเป็นเบอร์เกอร์แห่งความล้มเหลวครั้งใหญ่ของ McDonald's แต่ก็เป็นบทเรียนที่ทำให้พวกเขาได้เรียนรู้และพัฒนาจนกลับมาเป็นผู้นำอุตสาหกรรมอาหารฟาสต์ฟู้ดได้จนถึงทุกวันนี้
สรุป
นี่ถือเป็นบทเรียนราคาแพงที่สำคัญสำหรับ McDonald's ที่ทำให้พวกเขาเข้าใจลูกค้าของแบรนด์มากยิ่งขึ้น
คุณก็เคยเป็นหนึ่งในลูกค้าของ McDonald's ใช่ไหม? หรือคุณกำลังเจอบทเรียนครั้งใหญ่ของธุรกิจอยู่? มาแชร์กันได้ในคอมเมนต์เลย
อ้างอิง