ตอนนี้คงไม่มีใครไม่รู้ว่าการแข่งขันโอลิมปิกกำลังจัดที่ปารีส เมืองที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองหลวงของแฟชั่น จึงไม่น่าแปลกใจที่เราจะเห็นแบรนด์หรูในโอลิมปิก และภาพบรรยากาศหรูหราที่สุดในประวัติศาสตร์การแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ ตั้งแต่กล่องที่บรรจุเหรียญโอลิมปิก และคบเพลิงของ Louis Vuitton ไปจนถึงชุดนักกีฬาทีมชาติอิตาลีจาก Armani
จากรายงานของ Bloomberg กลุ่มพันธมิตรแบรนด์ที่ใหญ่ที่สุดของโอลิมปิกปารีส อย่าง Dior, Louis Vuitton, Armani และ Prada ใช้เงินประมาณ 160 ล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนนักกีฬาและทีม นอกจากนี้ แบรนด์ระดับสูงที่เข้าถึงได้ง่ายกว่าอย่าง Skims, Glossier และ Lululemon ก็กำลังมองหาวิธีการใช้ประโยชน์จากการแข่งขัน เพื่อดึงดูดให้ผู้ชมหันมาสนใจแบรนด์ของตน
ทำไมแบรนด์หรูถึงคิดจะพลิกวิกฤต ผ่านการเป็นสปอนเซอร์ในโอลิมปิก?
ดึงดูดผู้ชมจำนวนมาก
Ellie Thorpe, ผู้อำนวยการของ Kantar BrandZ เชื่อว่า “ผู้คนยินดีที่จะใช้เงินกับแบรนด์ที่พวกเขาคิดว่าคุ้มค่า แบรนด์ที่เชื่อมต่อกับผู้บริโภค และการสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับผู้บริโภค จะเป็นผู้ชนะเมื่อพูดถึงทางเลือกของผู้บริโภค” ด้วยเหตุนี้โอลิมปิกที่สามารถเข้าถึงผู้ชมได้หลากหลายทั่วโลก จึงเป็นตัวเลือกที่ดีในการเชื่อมต่อกับผู้บริโภค
สร้างภาพลักษณ์เชิงบวก
Thorpe, ผู้อำนวยการของ Kantar BrandZ กล่าวว่า “คุณค่าโอลิมปิกที่คุณคิดถึง ทั้งการแสวงหาความเป็นเลิศ วินัย และความเชี่ยวชาญ เป็นสิ่งที่หลายคนเชื่อมโยงกับแบรนด์หลายๆ แบรนด์” คุณค่าของโอลิมปิก เช่น ความเป็นเลิศ ความมุ่งมั่น และการทำงานเป็นทีม สามารถเชื่อมโยงกับภาพลักษณ์ของแบรนด์หรูได้ ทำให้แบรนด์ดูน่าเชื่อถือและน่าสนใจยิ่งขึ้น และเป็นอีกเหตุผลว่าทำไมแบรนด์หรูมากมายจึงยอมลงทุนกับการเป็นสปอนเซอร์
ตอบสนองความต้องการของตลาด
Deloitte คาดการณ์ว่า รายรับทั่วโลกสำหรับกีฬาหญิงระดับสูงจะเกิน 1 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้ ซึ่งเป็นสถิติใหม่ Marguerite Le Rolland หัวหน้าฝ่ายเสื้อผ้าและรองเท้าของ Euromonitor International กล่าวว่า “การเข้าร่วม การรับชม และการมีส่วนร่วมของแฟนๆ กำลังเพิ่มขึ้น และการสนับสนุนนักกีฬาและทีมหญิงถูกมองว่าเป็นวิธีที่ง่ายสำหรับแบรนด์” ความสนใจในกีฬาหญิงเพิ่มสูงขึ้น ทำให้แบรนด์สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ และสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับผู้บริโภค
Scale’s Takeaways
1.ร่วมมือกับนักกีฬาหญิง
หลายแบรนด์ให้การสนับสนุนนักกีฬาหญิง เพื่อส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กว้างขึ้น เช่น Olay สนับสนุนทีมสหรัฐอเมริกาและเลือกนักกีฬาหญิงหลายคนเพื่อโปรโมตผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดใบหน้า Glossier ยังกลายเป็นแบรนด์ความงามรายแรกที่สนับสนุนทีมบาสเกตบอลหญิงแห่งชาติสหรัฐอเมริกา และ Dior ได้รวบรวมนักกีฬาหญิงนานาชาติ 15 คน ก่อตั้ง “ทีมในฝัน” ของตนเอง
2.เน้นย้ำถึงคุณค่าของแบรนด์
แบรนด์หรูหลายแบรนด์เห็นถึงโอกาสในการสื่อสารคุณค่า ที่สอดคล้องกับโอลิมปิก เช่น ความเป็นเลิศ และความมุ่งมั่น ทำให้สามารถสร้างภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งสู่สายตาผู้บริโภค รวมถึงเป็นการโปรโมตสินค้าของแบรนด์ที่ให้ความสำคัญต่อคุณค่าดังกล่าวไปในตัวอีกด้วย
3.แบรนด์พากันต่อสู้กับการแข่งขัน และวิกฤตเศรษฐกิจ
ช่วงนี้สินค้าแบรนด์เนมต่างก็กำลังเผชิญกับอัตราเงินเฟ้อ และการชะลอตัวของยอดขายหลังวิกฤตการณ์โควิด 19 โดย LVMH ผู้นำของภาคธุรกิจนี้สังเกตเห็นหุ้นของบริษัทตกต่ำ หลังจากผลประกอบการไตรมาสที่สอง นอกจากนี้ยอดขายของสินค้าแบรนด์เนมต่างๆ ยังลดลงด้วย การมีโอลิมปิกในช่วงที่แบรนด์กำลังเจอกับวิกฤตพอดี จึงกลายเป็นโอกาสสำคัญของหลายแบรนด์ ในการเพิ่มยอดขาย
สรุป
การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกปารีส เป็นโอกาสสำคัญสำหรับแบรนด์หรู ในการฟื้นฟูภาพลักษณ์และยอดขาย โดยการใช้กลยุทธ์ที่หลากหลายในการเชื่อมโยงกับผู้ชม และสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง เราจึงเห็นหลายแบรนด์หรูในโอลิมปิกปารีสครั้งนี้
อ้างอิง
