ถ้าพูดถึงซีรีส์ที่กลายเป็นกระแสโด่งดังมากที่สุดในช่วงนี้ แน่นอนว่าต้องเป็นเรื่อง Queen of Tears
และถ้าใครเคยดูซีรีส์เรื่องนี้จะสังเกตเห็นถึงสัญลักษณ์แห่งความโชคดีอย่าง ‘ใบโคลเวอร์’ ที่ปรากฎอยู่ในหลายฉาก
แต่รู้ไหมว่านอกจากใบโคลเวอร์จะเป็นตัวแทนแห่งความโชคดีแล้ว ยังมีตำนานที่หลายคนไม่เคยรู้ และมีความหมายอื่นๆ แอบแฝงอยู่
‘ไอร์แลนด์’ แหล่งกำเนิดของใบโคลเวอร์
ใบโคลเวอร์เริ่มกลายเป็นสัญลักษณ์ของไอร์แลนด์ได้อย่างไรก็ยังไม่พบคำตอบที่แน่ชัด แต่เชื่อกันว่ามาจากนักบุญเซนต์แพทริก (St. Patrick) นักบุญที่เกิดในอาณาจักรโรมันบริเตนหรือเวลส์ โดยเมื่ออายุ 16 ปี เขาตกเป็นทาสและถูกนำตัวไปขังถึง 6 ปีที่ไอร์แลนด์ และนำศาสนาคริสต์มาเผยแพร่สู่ไอร์แลนด์
ชาวไอริชเชื่อว่านักบุญเซนต์แพทริกสามารถชุบชีวิตคนที่ตายไปแล้วให้ฟื้นคืนชีพได้และสามารถขับไล่งูออกจากไอร์แลนด์ได้ อีกทั้งเป็นคนนำใบโคลเวอร์ 3 แฉกหรือที่ชาวไอริชเรียกกันว่าแชมร็อก (Shamrocks) มาใช้สอนเกี่ยวกับศาสนาคริสต์ โดยช่วงที่ไอร์แลนด์ถูกอังกฤษเข้ายึดครอง ได้มีการสั่งห้ามให้ชาวไอริชพูดภาษาของตนเองและห้ามนับถือศาสนานิกายคาทอลิก ชาวไอริชได้ใช้ใบโคลเวอร์ เป็นเครื่องหมายแสดงความรักชาติ
ใบโคลเวอร์จึงเป็นสัญลักษณ์ประจำชาติของประเทศไอร์แลนด์ และเทศกาลเซนต์แพทริกที่จัดขึ้นทุกวันที่ 17 มีนาคมของทุกปีซึ่งตรงกับวันเสียชีวิตของนักบุญเซนต์แพทริก นอกจากนี้เรามักจะได้ยินวลี ‘the Luck of the Irish’ กันในเทศกาลเซนต์แพทริกเนื่องจากผู้คนมักจะสวมใส่เสื้อผ้าสีเขียวพร้อมสัญลักษณ์ใบโคลเวอร์ที่เป้นตัวแทนแห่งความโชคดีเพื่อลำรึกถึงนักบุญเซนต์แพทริก ในฐานะเป็นผู้สอนศาสนาคริสต์โรมันคาทอลิกและเป็นผู้ปกป้องคุ้มครองชาวไอริช โดยเชื่อกันว่าไอร์แลนด์เป็นแหล่งกำเนิดของใบโคลเวอร์
ทำไม ‘ใบโคลเวอร์’ เป็นตัวแทนแห่งความโชคดี
ดร. เจนนิเฟอร์ แพกซ์ตัน ศาสตราจารย์ด้านประวัติศาสตร์ของเกาะบริติชยุคกลางและไอร์แลนด์จาก The Catholic University of America พูดถึงความเชื่อที่ถูกแพร่กระจายไปอย่างกว้างขวางในแถบยุโรปว่า ชาวเคลต์(Celts) ชนชาติดั้งเดิมในแคว้นเวลส์ หรือประเทศอังกฤษในปัจจุบันได้ใช้ใบโคลเวอร์เป็นเครื่องรางในการต่อต้านวิญญาณชั่วร้าย ด้วยเหตุนี้จึงเชื่อว่า ‘ใบโคลเวอร์’ เป็นตัวแทนแห่งความโชคดี
แล้วทำไมต้องเป็น ‘ใบโคลเวอร์ 4 แฉก’ ถึงจะโชคดี?
ปกติแล้ว ‘ใบโคลเวอร์’ มักจะมีเพียงแค่ 3 แฉกเท่านั้น แม้หลายคนจะเชื่อกันว่าในต้นโคลเวอร์ 10,000 ต้น จะพบใบโคลเวอร์ 4 แฉกได้เพียงต้นเดียวเท่านั้น แต่ความเชื่อนี้ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้แน่ชัด
อย่างไรก็ตามนักวิจัยใบโคลเวอร์จาก UGA เล่าว่าการที่โคลเวอร์ที่จะสร้างใบ 4 แฉกได้ต้องเกิดจากการผสมของยีนด้อยและปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมอย่างอุณหภูมิ โดยในเดือนที่มีอากาศอบอุ่นมักจะมีแนวโน้มที่จะเห็นโคลเวอร์ 4 แฉกมากกว่าช่วงเวลาอื่นๆ ของปี ดังนั้นการที่เราได้พบ ‘ใบโคลเวอร์ 4 แฉก’ จึงเป็นปรากฎการณ์ที่พบได้ไม่ง่าย มีเพียงแค่คนที่โชคดีจริงๆ เท่านั้นที่สามารถพบ ‘ใบโคลเวอร์ 4 แฉก’ ได้
ซึ่งแต่ละแฉกของใบโคลเวอร์ก็จะมีความหมายที่แตกต่างกันออกไป
- แฉกแรก หมายถึง ความหวัง (Hope)
- แฉกที่สอง หมายถึง ความศรัทธา (Faith)
- แฉกที่สาม หมายถึง ความรัก (Love)
- แฉกที่สี่ หมายถึง ความโชคดี (Luck)
สัญลักษณ์ ‘ใบโคลเวอร์’ ใน Queen of Tears
ถ้าใครเป็นแฟนตัวยงของ Queen of Tears อาจจะเห็นว่ามีฉากที่มีใบโคลเวอร์อยู่หลายฉาก โดยความหมายของใบโคลเวอร์ในฉากก็ไม่ได้สื่อถึงความโชคดีเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่สื่อถึงหลายความหมายด้วยกัน ได้แก่
ฉากที่นางเอกซื้อพวงกุญแจใบโคลเวอร์ที่เยอรมัน สื่อความหมายของ ‘ความหวัง’ ของนางเอกที่จะเข้ารับการรักษาและ ‘ความเชื่อ’ ว่าจะหายจากโรคร้าย
ฉากที่พระเอกซื้อช่อพวงกุญแจให้นางเอก แต่นางเอกรู้ว่าพระเอกแอบซ่อนใบหย่าไว้ในตู้เซฟทำให้นางเอกปัดช่อใบโคลเวอร์ทิ้ง สื่อความหมายของการที่ ‘ความหวัง’ และ ‘ความเชื่อ’ พังทลายลง
ฉากสุสานของนางเอกที่มีใบโคลเวอร์อยู่รายล้อมป้ายชื่อนางเอก สื่อความหมายถึง ‘รักแท้’
Scale’s Takeaways
1. ใบโคลเวอร์กับความหมายที่ต่างกันในแต่ละวัฒนธรรม
แม้เราจะรู้จักใบโคลเวอร์ในความหมายของความโชคดี แต่จริงๆ แล้วใบโคลเวอร์กลับมีหลายความหมายที่ซ่อนอยู่ในแต่ละแฉก ในยุโรปเชื่อว่าใบโคลเวอร์เป็นตัวแทนของความโชคดีก็จริง แต่สำหรับชาวญี่ปุ่น พวกเขาเชื่อว่าใบโคลเวอร์ 4 แฉกสื่อความหมายถึงการพบเจอรักแท้ อีกทั้งยังเชื่อกันว่าใครที่ได้รับคำอวยพรให้โชคดีจากชาวไอริชจะโชคดีมากขึ้นเพราะไอร์แลนด์เป็นแหล่งกำเนิดของใบโคลเวอร์
2. Soft Power ของเกาหลีใต้ยังคงมีผลต่อทั่วโลก
แม้ซีรีส์จะจบไปแล้วก็ยังมีแฟนๆ หลายคนที่ยังคงอินกับซีรีส์จนตามซื้อพวงกุญแจใบโคลเวอร์กันให้วุ่น รวมถึงมีร้านค้าหลายร้านที่ขายพวงกุญแจแบบเดียวกันกับในซีรีส์อีกด้วย สิ่งนี้ยิ่งตอกย้ำความเป็น Soft Power ของเกาหลีใต้และตอกย้ำว่ามีแฟนๆ ทั่วโลกที่ให้ความสนใจกับซีรีส์อย่างมาก รวมถึงคนไทยด้วย
3. การบอกต่อปากต่อปากยังมีอิทธิพล
จะเห็นได้ว่าตำนานของใบโคลเวอร์เป็นที่เล่าขานกันมานานกว่า 1,000 ปีแล้วก็ยังคงเป็นที่พูดถึงกันในยุคนี้ รวมถึงมีการนำสัญลักษณ์มาใช้ในภาพยนตร์และซีรีส์ อย่างเรื่อง Queen of Tears ที่ได้สร้างปรากฏการณ์ตามหาดอกโคลเวอร์กันทั่วโซเชียลมีเดีย โดยนักแสดงชื่อดังอย่างซน เยจิน ก็เป็นอีกคนที่ได้โพสต์รูปใบโคลเวอร์พร้อมติด #QueenofTears
สรุป
แม้ใบโคลเวอร์จะเป็นเครื่องหมายทางสากลที่สื่อถึงความโชคดี แต่ก็ยังมีตำนานที่ยาวนานกว่า 1,000 ปี และมีแนวโน้มที่จะถูกส่งต่อไปถึงรุ่นลูก รุ่นหลาน อีกทั้งนักวิจัยหลายคนก็ยังคงศึกษาและทำการวิจัยการสร้างใบโคลเวอร์หลายแฉก ซึ่งมีสถิติสูงสุดถึง 56 แฉกเลยทีเดียว
อ้างอิง
- https://www.countryliving.com/gardening/a42791437/four-leaf-clovers/
- https://www.countryliving.com/life/entertainment/a26622047/st-patricks-day-history/
- https://www.bhg.com/holidays/st-patricks-day/traditions/fun-facts-about-four-leaf-clovers/#:~:text=The%20leaves%20of%20four%2Dleaf,leaf%20clover%2C%20look%20for%20more
- https://www.tenontours.com/blog/shamrocks-and-four-leaf-clovers-whats-the-difference/#:~:text=The%20four%2Dleafed%20clover%2C%20or,%2C%20and%20thus%2C%20considered%20lucky.
- https://timesofindia.indiatimes.com/web-series/news/korean/son-ye-jin-searches-for-luck-with-four-leaf-clover-in-her-latest-instagram-update/articleshow/109498056.cms