ถ้าพูดถึงบริษัทที่คนรุ่นใหม่อยากทำงานด้วยมากที่สุดในยุคนี้ แน่นอนว่า “Google” นั้นกลายเป็นคำตอบของใครหลายคน
WorkVenture เผยผลสำรวจ Top 50 Companies in Thailand 2024 โดยสำรวจทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์กับคนทำงานอายุ 22-35 ปี ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรีขึ้นไป จำนวนกว่า 11,452 คน พบว่า Google ประเทศไทย ยังครองแชมป์อันดับ 1
ส่วนสำคัญที่ทำให้ “Google” เป็นที่ทำงานในฝันของคนเหล่านี้ คงหนีไม่พ้น “วัฒนธรรมองค์กร” ที่ตอบโจทย์กับคนยุคใหม่เป็นอย่างดี
แล้ววัฒนธรรมของ Google แตกต่างจากบริษัทอื่นๆ อย่างไร?
ถอดรหัสวัฒนธรรมองค์กรของ Google
ปกติแล้วเวลาก่อตั้งบริษัทขึ้นมา หลายบริษัทอาจจะเริ่มจากกลยุทธ์การพัฒนาสินค้าและบริการ แต่สำหรับ Larry Page และ Sergey Brin ผู้ก่อตั้งของ Google เขาเริ่มจากการคิดว่าจะทำอย่างไรให้ Google เป็นบริษัทที่มีวัฒนธรรมองค์กรสะท้อนความเป็นเขาทั้งคู่ให้ได้มากที่สุด ซึ่งแบ่งเป็น 3 ข้อหลัก
ความเป็นอยู่ที่ดี
ด้วยความที่คนส่วนใหญ่ใช้ชีวิตไปกับการทำงานมากกว่าการอยู่บ้าน ดังนั้น Larry Page และ Sergey Brin จึงมองว่า Google ไม่ใช่แค่ที่ทำงานแต่เป็นสถานที่ที่พนักงานทุกคนมีความสุขที่ได้มาทำงาน ความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานจึงเป็นสิ่งสำคัญ
Google ประเทศไทยมีอาหารในพนักงานฟรีเพื่ออำนวยความสะดวกให้พนักงาน ไม่ต้องเดินไปหาร้านค้าที่ไหนไกลและประหยัดเวลา มี Minibar ทั้งน้ำผลไม้ กาแฟ หรือของว่างให้กินได้ตลอดเวลา มีเงินสนับสนุนในช่วง Work From Home ทุนการศึกษา ดูแลทั้งตัวพนักงานเองและครอบครัวของพนักงาน
นอกจากนี้ในสาขาต่างประเทศยังมีรถรับส่งพนักงาน ห้องนอน ห้องอาบน้ำ ห้องนวด ห้องเล่นเกม เพื่อให้พนักงานสามารถพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ โดยเชื่อว่าเมื่อพนักงานจะมี สุขภาพจิตที่ดี ไม่มีอาการหมดไฟในขณะที่ทำงาน
ให้อิสระกับพนักงาน
อย่างที่ทราบกันดีว่าบริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งต่างก็ปรับตัวกลายเป็น Hybrid Workplace ที่เปิดโอกาสให้พนักงานสามารถทำงานได้จากที่ไหนก็ได้ทั่วโลก ซึ่งGoogle เองก็มีนโยบายนี้เช่นกัน
แต่ที่แตกต่างจากที่อื่นก็คือ นโยบาย 20 Percent Time ที่มาจากไอเดียของ Larry Page และ Sergey Brin ที่ว่าเราต่างมีไฟในการทำโปรเจกต์ในมหาลัยเนื่องจากได้ทำในสิ่งที่จนสนใจ เขาจึงให้พนักงานใช้เวลาทำงาน 20% ไปสร้างโปรเจกต์อะไรก็ได้ตาม passion ของตนเองที่สร้างประโยชน์ให้กับ Google มากที่สุด
นอกจากนี้การทำงานที่ Google ยังไม่มีการตอกบัตรเข้าทำงาน เพราะเป็นการทำงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ การจำกัดเวลาทำงานให้อยู่ในแค่ช่วงทำงานอาจจะไม่ตอบโจทย์กับพนักงานที่ไอเดียพุ่งกระฉูดก่อนเวลาเข้างานหรือหลังเวลาเลิกงาน
เคารพความแตกต่าง
Google เป็นหนึ่งในองค์กรที่เคารพความแตกต่างทั้งเรื่องความคิด เชื้อชาติ และเพศ Larry Page และ Sergey Brin เชื่อว่าพนักงานไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตหรือความเป็นตัวเองเพื่อที่จะมาทำงานที่นี่
คุณมุกพิม อนันตชัย หัวหน้าฝ่ายพันธมิตรธุรกิจ YouTube ประเทศไทย ได้เล่าถึงการทำงานของเธอกว่า 10 ปีใน Google ว่าหนึ่งใน direction ของ Google ประเทศไทยได้มีการคุยกันถึงการผลักดัน LGBTQ+ ในที่ทำงาน อย่างการเรียกสรรพนามของพนักงานแต่ละคน เช่น she/her he/him they ตามที่พนักงานสบายใจ ฟังแล้วรู้สึกเป็นตัวของตนเองมากที่สุด
เธอยังเชื่อว่าการที่พนักงานได้เป็นตัวของตัวเองในที่ทำงานจะทำให้พวกเขาไม่ถูกปิดกั้นความคิดสร้างสรรค์ โดยการกล้าพูดในสิ่งที่แตกต่าง และกล้าทำสิ่งต่างๆ ด้วยความจริงใจจะทำให้สามารถทำงานออกมาได้ดีมากขึ้น
Scale’s Takeaways
1. ให้ความสำคัญกับพนักงาน
ในฐานะเจ้าของบริษัทหรือเจ้าของธุรกิจ การทำตามเป้าหมายของธุรกิจเป็นเรื่องสำคัญก็จริง แต่การจะไปถึงเป้าหมายนั้นได้ย่อมมีพนักงานเป็นแรงขับเคลื่อนอยู่เบื้องหลัง ดังนั้นการใส่ใจความเป็นอยู่และไม่ละเลยสวัสดิการที่พนักงานควรได้รับนับเป็นสิ่งที่จะช่วยให้ธุรกิจสามารถไปถึงเป้าหมายได้รวดเร็วขึ้น
2. ปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมให้ตอบโจทย์
หลังจากสถานการณ์โควิด-19 เริ่มซาลง เราเริ่มจะเห็นหลายบริษัทที่เริ่มปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมขององค์กรให้ตอบโจทย์กับคนรุ่นใหม่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Hybrid Workplace ที่พนักงานสลับกันเข้าออฟฟิศกับทำงานที่บ้านหรือคาเฟ่ สถานที่ทำงานที่ไม่ได้จำกัดว่าควรนั่งที่โต๊ะของตนเองเพียงเท่านั้น แต่มีหลากหลายโซนที่สามารถนั่งทำงานได้เพื่อเพิ่มไอเดียในการคิดงาน หรือการไม่จำกัดเวลาในการทำงานว่าต้องเริ่ม 8 โมง เลิก 5 โมง แต่ยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น
3. สำรวจความคิดเห็นของพนักงานทุกไตรมาส
อีกสิ่งที่สามารถช่วยยืนยันได้ว่าสวัสดิการและวัฒนธรรมขององค์กรตอบโจทย์กับชีวิตของพนักงานไหมก็คือการสำรวจความคิดเห็นของพนักงานในทุกๆ ไตรมาสเพื่อดูว่าพนักงานแต่ละคนรู้สึกอย่างไรกับการทำงานในองค์กร ต้องการให้ช่วยเหลือในด้านใดเพิ่มเพื่อประสิทธิภาพในการทำงานที่มากยิ่งขึ้น
สรุป
Google นับเป็นหนึ่งในบริษัทที่ลงทุนกับความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานมากที่สุด อีกทั้งยังมีสวัสดิการที่เราไม่เคยเห็นจากที่ไหน การนำวัฒนธรรมไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับธุรกิจของตนน่าจะเป็นสิ่งที่สามารถช่วยให้พนักงานรู้สึกมีความสุขในการมาทำงานมากยิ่งขึ้นและสามารถสร้างผลงานที่มีประสิทธิภาพตามเป้าหมายขององค์กรได้อีกด้วย
อ้างอิง
- https://www.facebook.com/WorkVentureCom/posts/pfbid0QAGAZxRk2EHdyKuiwe8We2nDNpkvBe7qdsPfnx1EsQuokhkjUepd7oPcsWmo4vovl
- https://www.youtube.com/watch?app=desktop&v=49u5Pz_UcWw
- https://www.forbes.com/sites/forbestechcouncil/2018/02/08/13-reasons-google-deserves-its-best-company-culture-award/?sh=643198e63482
- https://www.tiktok.com/@todaybizview/video/7200626052161424641
- https://www.youtube.com/watch?v=hEYRQQlKGLg