ถ้าพูดถึงหม่าล่าก่อนที่จะมีกระแสจากสุกี้จินดาเกิดขึ้น คงมีหลายคนที่ยังไม่รู้จักและยังไม่เคยทานอาหารประเภทนี้มาก่อน แต่ในปัจจุบันต้องยอมรับว่าสุกี้จินดาได้ปลุกกระแสหม่าล่าสายพานขึ้นมา จนคนไทยส่วนใหญ่คุ้นชินกับอาหารประเภทนี้ ทำให้เกิดร้านอาหารหม่าล่าที่มีหลากหลายรูปแบบมากขึ้นในปัจจุบัน
ทำไมสุกี้จินดาถึงประสบความสำเร็จมากกว่าร้านอื่นหลายเท่า ทั้งที่เป็นแบรนด์น้องใหม่ที่มีอายุเพียง 3 ปี
ก่อนที่จะเกิดกระแสหม่าล่าสายพานขึ้น ต้องขอย้อนกลับไปถึงจุดเริ่มต้นของผู้ปลุกกระแสในครั้งนี้อย่าง สุกี้จินดา โดยคุณดา นพรดา วาวีเจริญสิน อดีตไกด์นำเที่ยวที่ได้รับผลกระทบกับงานในช่วงวิกฤต COVID-19 จึงอยากหารายได้เข้ามาทดแทน และตัดสินใจเลือกทำธุรกิจอาหาร เพราะเขามองว่าธุรกิจนี้เป็นปัจจัย 4
ซึ่งในช่วงนั้นธุรกิจหม่าล่ายังไม่ได้รับความนิยม และมีจำนวนคู่แข่งไม่เยอะในตลาด คุณดาจึงตัดสินใจเปิดธุรกิจหม่าล่าในรูปแบบบุฟเฟ่ต์ 199 บาท ทานได้ไม่อั้น เพื่อเจาะกลุ่มวัยรุ่นที่ชอบลองทานอาหารใหม่ ๆ แต่กลับไม่ได้รับความนิยมจากกลุ่มเป้าหมายที่เขาตั้งใจไว้ เพราะในตอนนั้นกลยุทธ์ราคาถูกที่เขาตั้งไว้เพื่อจับกลุ่มวัยรุ่น ทำให้รายการอาหารในร้านมีไม่เยอะและไม่หลากหลาย เป็นเมนูทั่วไปที่ร้านบุฟเฟ่ต์ส่วนใหญ่มี
สุกี้จินดาจึงต้องพบเจอกับความล้มเหลวในช่วงแรกที่เปิดตัว จนต้องปิดกิจการไป แต่คุณดาก็ไม่ได้ท้อถอยแม้จะต้องเจอกับความล้มเหลว เขาเลือกที่จะปรับตัวให้เข้ากับลูกค้าและตัดสินใจเปลี่ยนโมเดลธุรกิจใหม่จากหม่าล่าบุฟเฟ่ต์ เป็นหม่าล่าสายพานที่ขายเป็นไม้ แบบที่ร้านต้นตำหรับขายในประเทศจีน
การเปลี่ยนโมเดลธุรกิจในครั้งนี้ทำให้สุกี้จินดาแก้ไขปัญหาเรื่องรายการอาหารที่ยังน้อยและไม่หลากหลายได้ แถมยังสามารถเพิ่มกำไรจากการขายเป็นไม้ได้มากกว่าการขายแบบบุฟเฟ่ต์ ซึ่งโมเดลนี้ก็ยังสามารถตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นได้ดี เพราะราคาขายแบบเป็นไม้ที่เริ่มต้นเพียง 5 บาท
นอกจากราคาที่ลูกค้ากลุ่มวัยรุ่นจะสามารถเข้าถึงสุกี้จินดาได้ง่ายขึ้น โมเดลธุรกิจใหม่นี้ยังช่วยสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับกลุ่มวัยรุ่นได้ เพราะการขายแบบเป็นไม้ที่เสิร์ฟด้วยสายพานยังไม่ค่อยพบเห็นในประเทศไทยมากนัก ทำให้รูปแบบการขายนี้ช่วยสร้างเอกลักษณ์ให้กับสุกี้จินดา จนเกิดเป็นหม่าล่าสายพาน ที่เป็นกระแสและเป็นภาพจำของลูกค้าไปแล้วในปัจจุบัน
จุดเริ่มต้นจากการเปลี่ยนโมเดลธุรกิจครั้งนี้ส่งผลต่อความสำเร็จในทุกวันนี้ของสุกี้จินดาอย่างมาก เพราะเขาสามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้ทั้งในเรื่องราคา และประสบการณ์ ทำให้เกิดการบอกต่อแบบปากต่อปาก และเกิด UGC หรือ User-generated Content ที่ลูกค้าจริง ๆ สร้างคอนเทนต์ขึ้นมาบอกเล่าประสบการณ์การทานหม่าล่าสายพานของสุกี้จินดาลงในช่องทางออนไลน์ จนกลายเป็นกระแสขึ้นมา
อีกหนึ่งปัจจัยของความสำเร็จในครั้งนี้ก็คือคุณภาพของวัตถุดิบหรือการมีสินค้าที่ดี รสชาติอร่อย ถูกปากคนไทย ทำให้ลูกค้าหลายคนที่มาทานตามกระแส ก็กลับมาทานซ้ำอย่างต่อเนื่อง
ทำให้ในปัจจุบันสุกี้จินดาสามารถขยายสาขาได้ถึง 37 สาขา และกว่า 15 จังหวัดในประเทศไทย ซึ่งในอนาคตคุณดาได้ตั้งเป้าขยายสาขาไปทุกจังหวัด จังหวัดละ 1 สาขา หรือ 77 จังหวัดทั่วประเทศ
Scale’s Takeaways
1. เข้าใจความต้องการของลูกค้า
ความต้องการของลูกค้าเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับการทำธุรกิจ เพราะธุรกิจจะต้องตอบสนองความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า ผ่านการส่งมอบสินค้าหรือบริการ และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า ถ้าธุรกิจสามารถสร้างความพึงพอใจให้กับกลุ่มลูกค้าของตนเองได้ ก็จะมีโอกาสเติบโตและเป็นแบรนด์ที่ครองใจลูกค้า
สุกี้จินดาเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ดีที่ทำให้เราเห็นถึงความสำคัญของการเข้าใจความต้องการของลูกค้าที่แท้จริง อย่างตอนที่เขาล้มเหลวจากการขายแบบบุฟเฟ่ต์ ที่ไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการลูกค้ากลุ่มวัยรุ่นที่ต้องการประสบการณ์หรือชอบลองอะไรที่แปลกใหม่ แต่เมื่อเปลี่ยนโมเดลธุรกิจมาตอบโจทย์ความต้องการได้ สุกี้จินดาจึงประสบความสำเร็จได้ถึงปัจจุบัน
2. สินค้าต้องตอบโจทย์
ถึงแม้ธุรกิจจะมีวิธีการทำการตลาดหรือมีช่องทางการขายที่ดีมากแค่ไหน แต่ถ้าสินค้าหรือบริการไม่ได้เป็นที่ต้องการสำหรับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย สุดท้ายธุรกิจก็จะไม่สามารถอยู่รอดในตลาดต่อไปได้ เพราะสินค้าถือเป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจที่จะส่งมอบประสบการณ์และความพึงพอใจให้กับลูกค้า
เห็นได้จากสุกี้จินดาที่ได้รับกระแสจากการสร้างประสบการณ์ที่แปลกใหม่ให้กับกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงานในการทานหม่าล่าสายพาน แต่ถ้าอาหารไม่มีคุณภาพหรือรสชาติไม่ดี กระแสนั้นก็จะไม่เกิดขึ้นหรือเป็นเพียงกระแสที่มาแล้วก็ผ่านไป ไม่สามารถทำให้ธุรกิจอยู่รอดหรือเติบโตขึ้นมาได้เหมือนในปัจจุบัน
3. เปลี่ยนลูกค้าให้เป็นกระบอกเสียง
UGC หรือ User-generated Content สำคัญมากในยุคปัจจุบัน เพราะลูกค้าทุกคนสามารถเป็น Influencer ที่บอกต่อหรือเล่าถึงประสบการณ์ที่ตัวเองได้รับจากธุรกิจต่าง ๆ และถือเป็นการตลาดที่น่าเชื่อถือมากในปัจจุบัน เพราะเป็นการบอกต่อที่เกิดจากลูกค้าจริง ๆ ที่ไม่ได้รับได้ผลประโยชน์จากแบรนด์หรือธุรกิจ
สุกี้จินดาเองก็ประสบความสำเร็จได้ส่วนหนึ่งจาก UGC ที่ทำให้เกิดกระแสในโลกออนไลน์และมีการพูดถึงแบรนด์อย่างต่อเนื่อง ทำให้ลูกค้าคุ้นชินกับแบรนด์และอยากที่จะไปลองทาน จนเกิดกระแสหม่าล่าสายพาน
สรุป
การเติบโตอย่างรวดเร็วของสุกี้จินดา ถือเป็นกรณีศึกษาที่ธุรกิจสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ โดยเฉพาะในปัจจุบันที่ประสบการณ์ของลูกค้ากลายเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จได้
คุณก็เคยเห็นคอนเทนต์ที่ลูกค้ารีวิวให้สุกี้จินดาใช่ไหม? แล้วใครเคยไปลองทานตามกระแสหม่าล่าสายพานมาแล้วบ้าง? มาแชร์ประสบการณ์ที่ได้รับจากสุกี้จินดากันได้ในคอมเมนต์เลย
อ้างอิง