เคยไหม รู้ทั้งรู้ว่าต้องทำอะไรต่อมิอะไรในแต่ละวัน แต่ก็ถูกความขี้เกียจเล่นงาน จนไม่ได้ทำอะไรตามที่คิดเอาไว้สักที สุดท้ายก็มานั่งโทษตัวเองว่าไม่สามารถทำสิ่งที่คิดเอาไว้ได้จนสำเร็จ
สภาวะแบบนี้เป็นเรื่องปกติของมนุษย์ เพราะเจ้าความขี้เกียจเป็นกลไกการป้องกันตัวที่อยู่ในสมองมนุษย์ จึงไม่แปลกเลยที่เราทุกคนต่างมีความขี้เกียจ แต่จะให้ยอมรับความขี้เกียจตลอดไปก็คงไม่ได้ เพราะเราต่างก็มีสิ่งที่อยากทำให้สำเร็จ เพราะฉะนั้นเราจึงต้องมีวิธีจัดการกับความขี้เกียจในเวลาที่เหมาะสม
วันนี้เรามีหนึ่งในวิธีเอาชนะความขี้เกียจวิธีหนึ่งที่เป็นที่นิยมมากมาฝาก นั่นก็คือกฎ 5 วินาที เวลาเพียงแค่นี้เนี่ยแหละ ที่จะเป็นตัวจุดชนวนให้เพื่อนๆ เอาชนะความขี้เกียจได้ชะงัดนัก เจ้ากฎนี้คืออะไรลองมาอ่านและนำไปทำตามกันดู
กฎ 5 วินาที ทำอย่างไร?
วิธีการนั้นฟังแล้วจะดูเหมือนง่ายมาก เวลาที่เราจะเริ่มค้นทำอะไรก็ตาม ให้เรานับถอยหลัง 5-4-3-2-1 จากนั้นก็ให้เริ่มทำสิ่งนั้นโดยไร้ข้อกังขา และเมื่อเราเริ่มทำสิ่งนั้นไปแล้ว ก็มีโอกาสสูงมากที่เราจะทำสิ่งนั้นจนสำเร็จ ราวกับการนับถอยหลังเป็นตัวจุดชนวนให้กับสมองและร่างกายของเรา
ยกตัวอย่างที่สามารถนำไปใช้ได้เลย เช่น เคยรู้สึกเสียเวลากับการเล่นโทรศัพท์ไหม เมื่อเรารู้ตัวว่าเรากำลังไถหน้าจอมือถือแล้วหยุดไม่ได้ ให้นับถอยหลัง 5-4-3-2-1 จากนั้นให้เราปิดหน้าจอทันที แล้วไปทำอย่างอื่น จากที่ผมได้ทดลองเองกับตัว มันใช้ได้ผลมากๆ
กฎ 5 วินาที มีที่มาจากโฆษณาปล่อยจรวด
5 Second Rule หรือกฎ 5 วินาที เป็นกฎที่ถูกนำมาเขียนเป็นหนังสือของ “เมล ร็อบบินส์” ที่เล่าถึงวิธีการที่เธอได้ใช้กฎนี้ เพื่อดึงตัวเองขึ้นมาจากปัญหาในช่วงหนึ่งของชีวิต จนทำให้เธอได้กลายเป็นหนึ่งในนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ ที่มีคนจองตัวมากที่สุดคนหนึ่ง
เธอได้คิดค้นวิธีนี้ในช่วงที่เธอประสบปัญหาชีวิตจนเธอไม่อยากลุกขึ้นมาทำอะไรเลยในแต่ละวัน มาวันหนึ่งเธอได้เห็นโฆษณาในทีวี เป็นภาพการปล่อยจรวดและมีการนับถอยหลังเพื่อปล่อยจรวด 5-4-3-2-1 หลังจากนั้นเธอบอกตัวเองว่าในวันพรุ่งนี้ เธอจะลุกขึ้นมาจากเตียงเหมือนกับการนับถอยหลังปล่อยจรวด
ความอัศจรรย์คือหลังจากวันนั้น เธอสามารถลุกขึ้นจากเตียงได้โดยไม่โอดครวญ และก็นำวิธีการนี้ไปปรับใช้กับชีวิตของเธอในหลายๆ ด้าน จนทำให้เธอประสบความสำเร็จอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนั่นเอง
ทำไมการนับถอยหลังจึงทำให้ตื่นตัวได้
การนับถอยหลัง 5-4-3-2-1 แล้วลงมือทำอะไรก็ตาม เป็นวิธีการกระตุ้น Prefrontal cortex ซึ่งเป็นส่วนหน้าของสมองที่ทำหน้าที่ ควบคุมการตัดสินใจของสมองและส่งสัญญาณไปถึงร่างกายของเรา อธิบายง่ายๆ ไม่ว่าเราจะเริ่มทำอะไรก็ตาม เจ้า Prefrontal cortex คือส่วนแรกที่จะกระตุ้นให้เราทำสิ่งนั้นนั่นเอง
วิธีการใช้ กฎ 5 นาที ให้ได้ผลดีที่สุด
จริงอยู่ที่กฎนี้สามารถกระตุ้นให้เราเริ่มต้นทำอะไรสักอย่างได้ แต่สิ่งสำคัญก็คือมายด์เซ็ท คุณ “เมล ร็อบบินส์” กล่าวว่า สิ่งที่เราต้องคิดเมื่อใช้กฎ 5 นาที ก็คือการ “ลงมือทำอย่างไม่ลังเล”
ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม ให้เราลงมือทำก่อนเสมอ การคิดวิเคราะห์เป็นกระบวนการปรับแต่งหลังจากได้ลงมือทำมันไปแล้ว มีหลายคนที่เริ่มต้นทำสิ่งต่างๆ ด้วยการตั้งคำถามที่มากเกินไป และเมื่อพวกเขาเห็นผลลัพธ์จากประสบการณ์ของคนอื่น ก็มักจะล้มเลิกที่จะทำสิ่งนั้นไปอย่างน่าเสียดาย
Scale’s Takeaways
1. อย่าลังเลที่จะเริ่มต้นทำอะไร
ในการจะทำอะไรสักอย่างหนึ่ง ทุกคนต่างมีความกลัวเสมอ เพราะนั่นคือสิ่งที่เรายังไม่เคยทำ แต่สุดท้ายแล้วมนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่เกิดการพัฒนาได้อย่างน่าอัศจรรย์ สิ่งที่ต้องโฟกัสไม่ใช่ความกลัว แต่คือการลงมือทำต่างหาก
ผู้ที่ประสบความสำเร็จทั้งหลาย พวกเขาไม่ได้ไม่กลัวกับการทำสิ่งต่างๆ แต่พวกเขาลงมือทำแม้ว่าจะกลัว และผลลัพธ์ที่ออกมา ก็ทำให้พวกเขาเป็นคนเพียงจำนวนน้อยที่ประสบความสำเร็จนั่นเอง
2. อย่าหลงไปกับความสำเร็จของโลกโซเชียล
มีคนกล่าวไว้ว่าความสำเร็จในโลกโซเชียลเป็นเพียงแค่ 10% ของเรื่องราวทั้งหมด บางครั้งเราเห็นคนที่ประสบความสำเร็จในบางอย่างผ่านโลกออนไลน์ ก็ทำให้เราเกิดการเปรียบเทียบว่าทำไมเราถึงไม่ได้แบบเขา ทั้งที่ในบางทีเราอาจทำสิ่งนั้นได้ดีกว่าเขาก็ได้ จนสุดท้ายเราก็ล้มเลิกในการทำสิ่งนั้นไป
ความสำเร็จเหล่านั้นอาจเป็นผลลัพธ์ของการพยายามมาอย่างยาวนานของคนๆ นั้นก็เป็นได้ เราเพียงเห็นแค่จุดที่เขาสำเร็จแล้วเท่านั้น สิ่งที่สำคัญจริงๆ คือการโฟกัสกับเป้าหมายของตัวเอง เอาความสำเร็จของคนอื่นมาใช้เป็นกลไกการพัฒนา ไม่ใช่เพื่อเอามาเปรียบเทียบเพื่อด้อยค่าตัวเอง
หากเราพยายามมากพอ เชื่อเถอะว่าไม่มีความพยายามไหนที่ไร้ประโยชน์ ถ้าเราเชื่อมั่นและทำมันอย่างต่อเนื่องด้วยความสุข สักวันมันจะสำเร็จอย่างแน่นอน
3. ลงมือทำในวันที่ไม่อยากทำ
ช่วงเวลาที่แสดงถึงงจุดเริ่มต้นของความสำเร็จก็คือ เราได้ลงมือทำตามเป้าหมายแม้วันที่เราไม่อยากจะทำมันมากที่สุด การที่เราสามารถทำมันได้แบบนี้ แสดงว่าเราสามารถเอาชนะความขี้เกียจของเราได้ และการลงมือทำอย่างต่อเนื่อง มันก็จะส่งผลลัพธ์ที่ดีในสักวันอย่างแน่นอน
สรุป
กฎ 5 วินาที เป็นเพียงกลไกการจุดชนวนให้สมองและร่างกายของเราเริ่มต้นที่จะทำอะไรบางอย่างเท่านั้น แต่สิ่งที่เราต้องทำหลังจากนั้นคือการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน และความกล้าในการเผชิญกับความกลัวและความล้มเหลว
หากเราสามารถรับมือกับทุกอย่างเหล่านี้ได้ และทำตามแผนอย่างต่อเนื่องไม่มีหยุด สักวันเราก็จะได้สิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิตอย่างแน่นอน
อ้างอิง
https://masteryourmind.ca/how-to-use-the-five-second-rule-when-youre-feeling-lazy
