อิคิไก (Ikigai) เป็นคำภาษาญี่ปุ่นที่หมายถึง “ความหมายของชีวิต” หรือ “สิ่งที่ทำให้ชีวิตมีคุณค่า” เป็นแนวคิดที่มาจากวัฒนธรรมญี่ปุ่น โดยเชื่อว่าทุกคนมีอิคิไกของตัวเอง ซึ่งอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล
แล้วอิคิไกเกี่ยวอะไรกับการทำธุรกิจ?
อิคิไกไม่ใช่แค่นำมาใช้ในแง่ของชีวิตเท่านั้น แต่สามารถนำมาไกด์ในการทำธุรกิจได้อีกด้วย โดยธุรกิจที่มีอิคิไกจะมีความยั่งยืนและประสบความสำเร็จมากกว่าธุรกิจทั่วไป เพราะธุรกิจที่มีอิคิไกจะมุ่งเน้นไปที่การสร้างคุณค่าให้กับทั้งผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งภายในและภายนอกองค์กร
จุดประกายการเปลี่ยนแปลงและต่อยอดอย่างยิ่งใหญ่จากเรื่องราวของ Nakagawa Masashichi
บริษัท Nakagawa Masashichi เป็นบริษัทค้าปลีกสินค้าพื้นเมืองญี่ปุ่นที่เก่าแก่ที่สุดที่อยู่มานานกว่า 300 ปี และยึดมั่นในคุณค่าของภูมิปัญญาท้องถิ่นและวัฒนธรรมดั้งเดิม
ในยุคของ นาคากาวะ จุน (Nakagawa Jun) ลูกชายของตระกูลที่เข้ามาสืบทอดกิจการรุ่นที่ 13 ในปี 2002 ณ ตอนนั้นธุรกิจ Yu Nakagawa (ของคุณแม่) ประสบปัญหาการขาดทุน และจุนได้เข้ามาปรับการสื่อสารพัฒนาสินค้าและแบรนด์เพื่อให้ลูกค้าเห็นคุณค่าของสินค้า ภายใต้คอนเซปต์ “ภูมิปัญญาโบราณสู่ของใช้ในชีวิตประจำวัน”
สินค้าต่างๆ มีการปรับให้ภูมิปัญญาโบราณเข้ากับวิถีชีวิตของคนยุคใหม่ นั่นทำให้สินค้าต่างๆ ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากและทำกำไรให้ธุรกิจได้เป็นอย่างดี
แต่ในขณะที่ทุกอย่างไปได้ดี จุนคิดว่าถ้าเอาแต่หาทางทำให้ธุรกิจโตไปอีกเรื่อยๆ คงทำงานได้ไม่กี่สิบปีแล้วคงเบื่อแน่ๆ จนตกตะกอนทางความคิดกำเนิดไอเดีย “จะทำให้งานฝีมือญี่ปุ่นแข็งแกร่ง”
และนั่นคืออิคิไกของธุรกิจที่จุนอยากสร้างแรงบันดาลใจให้ทั้งบริษัทเห็นภาพเดียวกัน
4 ธุรกิจภายใต้ตระกูล Nakagawa
ธุรกิจแรก คือ “ธุรกิจผลิตและจำหน่าย” Nakagawa Masashichi และ Yu Nakagawa ส่วนธุรกิจที่สองกำเนิดเพราะจุนได้พบว่าหลายบริษัทประสบปัญหาคล้ายกับที่จุนเคยเจอ เขาจึงเขียนหนังสือเล่าเรื่องราวการพลิกฟื้นธุรกิจของตัวเองในฉบับ SMEs
และเมื่อหนังสือออกขาย กระแสการตอบรับก็ดีจนบูม ทำให้มีผู้อ่านหลายคนเข้าไปติดต่อให้จุนช่วยแก้ปัญหาของธุรกิจ จนก่อกำเนิดธุรกิจที่สองนั่นก็คือ “ธุรกิจให้คำปรึกษา”
เมื่อธุรกิจให้คำปรึกษาเริ่มบูมจนคนเข้ามาติดต่อขอคำปรึกษามากขึ้นเรื่อยๆ จนรับไม่ไหว เขาจึงขยายธุรกิจที่สามขึ้น นั่นก็คือ “ธุรกิจอบรม”
มาจนถึงธุรกิจสุดท้าย “ธุรกิจช่วยเหลือท้องถิ่น” ที่ช่วยประชาสัมพันธ์สินค้าดีประจำจังหวัด การเข้าไปช่วยออกแบบของที่ระลึกประจำเมือง ตลอดจนการจัดอีเวนต์
และนี่คือการต่อยอดจากการตั้งเป้าหมายของธุรกิจได้อย่างหลากหลายและยั่งยืนมาจนถึงปัจจุบัน จากเป้าหมายที่จุนตั้งเอาไว้ว่า “จะทำให้งานฝีมือญี่ปุ่นแข็งแกร่ง”
แล้วคุณจะตามหาอิคิไกของธุรกิจได้ยังไง?
- เข้าใจตัวเอง: วิเคราะห์ความถนัด ความชอบ และเป้าหมายของตนเองเพื่อค้นหาสิ่งที่ตนเองทำได้ดีและมีความสุขที่จะทำ
- เลิกสนใจคู่แข่งและการเปลี่ยนแปลง: มุ่งเน้นที่คุณค่าและความแตกต่างของธุรกิจของตนเอง แทนที่จะมุ่งเปรียบเทียบกับผู้อื่น
- ตามหาความเชื่อและสิ่งที่ต้องการส่งมอบให้กับลูกค้า: ค้นหาว่าธุรกิจของตนเองมุ่งหวังที่จะสร้างผลกระทบเชิงบวกและคุณค่าอย่างไรให้กับลูกค้าและสังคม
- หาทางเลือกที่แตกต่างและกล้าที่จะทำในสิ่งที่คนอื่นในอุตสาหกรรมไม่กล้าทำ: ค้นหานวัตกรรมและวิธีการใหม่ๆ ในการดำเนินธุรกิจเพื่อสร้างความแตกต่างและความได้เปรียบในการแข่งขัน
- หาสิ่งที่ธุรกิจต้องการทำ: สิ่งที่ธุรกิจให้ความสำคัญเป็นพิเศษ นอกเหนือจากสิ่งที่ธุรกิจต้องทำเพื่ออยู่รอดในอุตสาหกรรม
- หาสิ่งที่ธุรกิจไม่ต้องการทำ: วิเคราะห์กิจกรรมหรือแนวทางที่ไม่สอดคล้องกับเป้าหมายและคุณค่าของธุรกิจเพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียทรัพยากรและความพยายาม
- ทำไมธุรกิจของคุณควรมีอยู่: ระบุคุณค่าที่ธุรกิจของคุณนำเสนอให้กับลูกค้าและสังคมเพื่อให้แน่ใจว่าธุรกิจของคุณมีความสำคัญและสร้างผลกระทบเชิงบวก
สรุป
แล้ววันนี้คุณรู้อิคิไกของธุรกิจแล้วหรือยัง? ลองใช้ 7 เทคนิคตามหาอิคิไกของธุรกิจนี้เพื่อทำให้ธุรกิจของคุณสามารถต่อยอดอย่างยั่งยืนสิ!
สรุปจากงาน Corporate Innovation Summit 2023 ใน Session “Find Your Organization’s Ikigai for Sustainable Growth” โดย Asst. Prof. Kritinee Pongtanalert, Ph.D. Lecturer in Marketing and Innovation, Chulalongkorn University